Breaking News

การเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก และ สังคม


 

🌎 กระแสโลก คือ ความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความต่อเนื่อง เป็นภาพกว้างของการเปลี่ยนผ่าน

🌎 บริบทโลก คือ สภาพการณ์หรือสภาพแวดล้อมของโลก

กระแสโลกมีจุดเน้นที่คลื่นของความเปลี่ยนแปลง เป็นการเปลี่ยนผ่านแต่ละช่วง ส่วนบริบทโลกมีจุดเน้นที่สถานการณ์หรือสภาพการณ์หรือเหตุการณ์สภาพแวดล้อมของโลก ทำให้มีผลต่อความเปลี่ยนแปลงระหว่างประเทศ

โลกาภิวัตน์นับเป็นกระแสโลกและบริบทโลกร่วมสมัยที่สำคัญ มีการถือกำเนิด พัฒนาการ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายประการ ส่งผลต่อตัวแสดงระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง

แนวคิดทฤษฎีโลกาภิวัตน์ ที่สำคัญ แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มแนวคิดสนับสนุนโลกาภิวัตน์ กับกลุ่มแนวคิดต่อต้านโลกาภิวัตน์ กลุ่มที่สนับสนุนโลกาภิวัตน์มองว่าโลกาภิวัตน์เป็นประโยชน์กับรัฐชาติและตัวแสดงระหว่างประเทศอื่น กับกลุ่มที่ต่อต้านโลกาภิวัตน์ มองว่ากระแสโลกาภิวัตน์เป็นปัญหาและอุปสรรคกับรัฐชาติและตัวแสดงระหว่างประเทศอื่น

🌎 คลื่นการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก (Wave Revolution)

จากแนวคิดของ Alvin Tofler (นักอนาคตวิทยาและผู้เขียนหนังสือ The Third Wave) กล่าวถึงคลื่นการเปลี่ยนแปลง โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วงที่สำคัญ ดังนี้

  คลื่นลูกที่ 1 การปฏิวัติเกษตรกรรม (Agricultural Revolution) นับตั้งแต่ในช่วงปลายยุคหินใหม่ มนุษย์ในยุคนั้นได้เปลี่ยนวิถีชีวิตจากการเร่ร่อน ล่าสัตว์ และเก็บพืชผลไม้ป่าเป็นอาหารมาเป็นการเริ่มเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ มีการตั้งบ้านอาศัยอยู่เป็นหลักแหล่ง มีรูปแบบเป็นอารยธรรม ปัจจัยแห่งยุคนี้คือ ที่ดิน ผู้นำทางสังคมหรือผู้นำแห่งยุค คือ ขุนพล ผู้กุมอำนาจทางการทหาร เพื่อปกป้องทรัพยากรและหาแหล่งทรัพยากรใหม่ให้สังคมของตน  ยุคนี้เป็นยุคที่พ่อค้านักธุรกิจ จะอาศัยบารมีของผู้นำทัพ เพื่อให้ตนมีอำนาจทางธุรกิจ เหนือกว่าคนอื่น ขณะเดียวกัน ขุนพลก็ต้องการพ่อค้าเพื่อเลี้ยงดูตนและกองทัพ

คลื่นลูกที่ 2 การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) เกิดขึ้นจากปัญญาชนในยุคนี้ปฏิเสธความคิดความเชื่อที่เกิดจากศรัทธาในศาสนาของยุคกลางช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 นำไปสู่การให้ความสำคัญในเรื่องผลิตผลและประสิทธิภาพ การหาวิธีแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและความเจริญก้าวหน้า นิยมการค้นหาความจริงโดยหลักของเหตุและผล มองโลกในแง่ดีเชื่อมั่นในความก้าวหน้าของมนุษย์ นำความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ไปอธิบายปัญหาสังคม  โดยมีอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นผู้นำ การปฏิวัติอุตสาหกรรม แบบแผนการทำงานในโรงงานยังเข้ามาแทนที่อุตสาหกรรมในครัวเรือน ซึ่งต้องนำงานมาส่งให้แรงงาน อันทำให้รูปแบบของสินค้า แรงงาน และสถานที่ทำงานเปลี่ยนแปลงไป โดยอาศัยพลังงานและเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ถ่านหิน และไอน้ำ ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก มาเป็นพลังงานไฟฟ้า เคมี และน้ำมัน โลกเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรมมีการสร้างถนนและสาธารณูปโภค การเดินทางไปมาหาสู่กันมีมากขึ้นเนื่องจากการคมนาคมสะดวกขี้น ภาษาท้องถิ่นเริ่มมีบทบาทน้อยลง ในขณะที่ผู้คนหันมาเรียนรู้ที่จะใช้ภาษาสากล เพื่อง่ายและมีประสิทธิผลในสื่อสารระหว่างกันมากขึ้น ยุคนี้เป็นยุคที่ทหารจะซ่อนอยู่เบื้องหลังนายทุน พ่อค้า นักธุรกิจ

คลื่นลูกที่ 3 การปฏิวัติสารสนเทศ (Information Revolution) เป็นยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีระดับสูงซึ่งได้แก่ ระบบคอมพิวเตอร์สารสนเทศและกระแสโลกาภิวัตน์ โดยเกิดจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น ที่มุ่งแปรสภาพจากสังคมเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (Industrial Economy) ไปเป็นสังคมเศรษฐกิจบริการ (Service Economy) โดยเป็นการผลิตที่ใช้สารสนเทศเพิ่มมากขึ้น และมีการใช้นโยบายกีดกันการค้าเข้าแทนที่นโยบายการค้าเสรีที่เคยใช้มาก่อน รวมทั้งใช้นโยบายเสรีนิยมทางการเงิน (Financial Liberalize) ทำให้ทุนและเงินตรากลายเป็นปัจจัยการผลิตที่ไร้เชื้อชาติและสัญชาติ และสามารถเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศโดยเสรีโดยอาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้การลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศมีความสำคัญแซงหน้าการลงทุนโดยตรง ปัจจัยแห่งยุคคือ ข้อมูลมีเครื่องมือคือ IT (Information Technology) สิ่งต่างๆ ในยุคนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่เข้าถึงข้อมูลก่อนจะได้เปรียบในการแข่งขัน ตัวอย่างง่ายๆ

คลื่นลูกที่ 4 การปฏิวัติความรู้ (Knowledge Revolution) เป็นยุคสมัยแห่งการสร้างสังคมแห่งองค์ความรู้ โดยเน้นในปัจจัยคือ ความรู้ (Knowledge) เครื่องมือคือ ศาสตร์วิทยาการในแขนงต่างๆ    เช่น nanotechnology, biotechnology, pharmaceutical เป็นต้น ยุคนี้จะมีการใช้ความคิด อารมณ์ และความรู้สึกเฉพาะตนที่มากขึ้น มีการบูรณาการความรู้และใช้ปัญญา เพื่อให้เกิดความแตกต่างหรือเกิดการเปลี่ยนแปลง

🌎 ความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกและบริบทโลก

ความเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองข้ามพรมแดนของรัฐที่เป็นการเมืองระหว่างประเทศ เป็นความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกหลังสงครามเย็นในทศวรรษที่ 1990 นับเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญจากการรวมเยอรมนี การประกาศจัดระเบียบโลกใหม่ สงครามระหว่างอิรักกับคูเวต การล่มสลายของสหภาพโซเวียต การสลายตัวขององค์การวอร์ซอ ความเปลี่ยนแปลงในยุโรปตะวันออก ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในของสหรัฐอเมริกา การขยายอำนาจและอิทธิพลของจีน การกำหนดนโยบายสี่ทันสมัยของจีน ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การโจมตีตึกเวิร์ลเทรดและเพนตากอนของกลุ่มอัลเคด้า และการประกาศลัทธิบุชและสงครามต่อต้านการก่อการร้าย

🌎 ความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกและบริบทโลกด้านเศรษฐกิจ

ความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกและบริบทโลกด้านเศรษฐกิจจากโลกาภิวัตน์ทางด้านเศรษฐกิจมาจากลัทธิเสรีนิยมใหม่ที่มุ่งเน้นหลักการสามประการ ประกอบด้วย เสรีภาพ ความเสมอภาค และความยืดหยุ่น และมีจุดเริ่มต้นจากฉันทามติวอชิงตันของจอห์น วิลเลียมสัน ที่มีสาระส าคัญ ประกอบด้วย วินัยทางการคลัง การจัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายของรัฐบาล การปฏิรูปภาษีอากร อัตราดอกเบี้ย อัตราการแลกเปลี่ยน การเปิดเสรีด้านการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจการลดการควบคุมและก ากับจากรัฐ และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน

🌎 ความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกและบริบทโลกด้านสังคม

การขยายตัวของเทคโนโลยีการสื่อสารท าให้เกิดการไหลเวียนข้อมูลข่าวสารหรือสารสนเทศโดยทั่วไปก่อให้เกิดความรู้สึกร่วมกัน เป็นหมู่บ้านโลก และครอบครัวโลก ประเทศหลายประเทศก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเพราะคนรุ่นใหม่มีบุตรลดลง การเป็นสังคมที่มีเพศที่หลากหลาย การเติบโตของคนรุ่นเจนวาย (Generation-Y)และการเริ่มมีบทบาททางสังคมของคนรุ่นเจนแซด (Generation-Z) การมีวัฒนธรรมประชานิยม ค่านิยมวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ซึ่งท้าทายต่อการสร้างเอกลักษณ์แห่งชาติของรัฐชาติโลกาภิวัตน์ก่อให้เกิดปัญหาสังคมระหว่างประเทศภายหลัง ที่สำคัญ คือ ความขัดแย้งทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา การค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ แรงงานข้ามชาติทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และภัยธรรมชาติ

ไม่มีความคิดเห็น